
ปัจจุบัน เวียดนามได้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย ด้วยความที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทย การเดินทางสะดวกสบาย และมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายให้เลือกตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวทางธรรมชาติที่สวยงาม เมืองเก่าสุดคลาสสิก หรือแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยสินค้าท้องถิ่นมากมาย อีกทั้งอาหารริมทางของเวียดนามยังขึ้นชื่อว่าอร่อย ราคาย่อมเยา และเข้าถึงง่าย
เชื่อว่ามีหลายคนอาจสงสัยว่า หากมีงบประมาณจำกัด จะสามารถท่องเที่ยวที่เวียดนามได้หรือไม่? 🤔 คำตอบคือสามารถทำได้แน่นอน เท่าที่เราทราบ ระดับการบริโภคและค่าครองชีพในเวียดนามไม่แตกต่างจากประเทศไทยมากนัก นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนงบประมาณให้เหมาะสมกับสไตล์การเดินทางของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นสายประหยัด หรือสายชิลล์สบาย ๆ ก็สามารถเที่ยวได้อย่างเพลิดเพลิน วันนี้ Trip.com ขอพาคุณมาดูแนวทางการวางแผนงบประมาณสำหรับการท่องเที่ยวในเวียดนาม เพื่อให้ทริปของคุณราบรื่นและคุ้มค่าที่สุด!
ข้อควรรู้ก่อนเดินทางเข้าประเทศเวียดนาม
คนไทยต้องขอวีซ่าเพื่อเข้าเวียดนามหรือไม่?
นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางเข้าเวียดนามได้โดย ไม่ต้องขอวีซ่า ตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลเวียดนาม คุณสามารถพำนักอยู่ในเวียดนามได้ สูงสุด 30 วัน โดยไม่ต้องมีเอกสารประกอบเพิ่มเติม ไม่ต้องใช้รูปถ่าย และไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่มี หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ ก็สามารถเดินทางได้เลยอย่างสบายใจ
ตั๋วเครื่องบินจากไทยไปเวียดนาม
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศเวียดนาม ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงให้บริการจากหลายสายการบินสู่สนามบินนานาชาติหลักของเวียดนาม โดยสามารถเลือกเดินทางได้ตามจุดหมายปลายทางที่ต้องการ ดังนี้
- ✈ ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยป่าย (Noi Bai International Airport)
ตั้งอยู่ในกรุงฮานอย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเยี่ยมชมเขตเมืองเก่าโบราณและสัมผัสวัฒนธรรมเวียดนามดั้งเดิม
- ✈ ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง (Danang International Airport)
ตั้งอยู่นครดานัง เมืองชายฝั่งที่มีชายหาดสวยงาม และใกล้แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างฮอยอันและบานาฮิลล์
- ✈ ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat International Airport)
ตั้งอยู่ในนครโฮจิมินห์ หรือไซ่ง่อนเดิม เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจแหล่งช้อปปิ้ง คาเฟ่ทันสมัย และบรรยากาศเมืองใหม่
- ✈ ท่าอากาศยานนานาชาติเลียนเคือง (Lien Khuong International Airport)
ตั้งอยู่ที่เมืองดาลัด เมืองตากอากาศในหุบเขาที่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี และมีเสน่ห์ด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติและสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส

สำหรับราคาตั๋วเครื่องบินจากประเทศไทยไปยังเวียดนามนั้นมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสายการบินและช่วงเวลาในการเดินทาง โดยราคาตั๋วเครื่องบินไปยังกรุงฮานอยสามารถเริ่มต้นเริ่มต้น ฿ 3,061 เท่านั้น(ราคาเป็นเพียงข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น) ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศในราคาประหยัด วางแผนทริปเวียดนามของคุณวันนี้ แล้วเลือกจุดหมายปลายทางที่ตรงใจ พร้อมสำรองที่นั่งล่วงหน้าเพื่อรับราคาที่ดีที่สุด!
พักที่ไหนดีในเวียดนาม
หนึ่งในค่าใช้จ่ายสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเมื่อวางแผนเดินทางคือค่าโรงแรม วันนี้เราขอแนะนำที่พักในเวียดนามที่ราคาไม่แพง บรรยากาศดี เหมาะแก่การพักผ่อน ทั้งยังตั้งอยู่ในทำเลที่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวและจุดชมวิวต่าง ๆ อีกด้วย
ด้วยความหลากหลายของภูมิประเทศและเมืองต่าง ๆ ทั่วเวียดนาม ทำให้ราคาที่พักในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน หากต้องการประหยัดงบประมาณสามารถเลือกห้องพักในระดับราคาที่เหมาะสมได้ หรือหากมีงบเพียงพอ อาจเลือกพักในห้องที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบรรยากาศที่ดีขึ้น เพื่อประสบการณ์การเข้าพักที่ดียิ่งขึ้น
โรงแรมราคาย่อมเยาในเวียดนาม เริ่มต้นเพียงคืนละประมาณ 700 บาทเท่านั้น หากคุณกำลังวางแผนเดินทางไปเวียดนาม คุณสามารถเลือกโรงแรมที่เหมาะกับงบประมาณของคุณได้ที่ Trip.com
การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเวียดนาม
การเดินทางภายในเวียดนามมีความสะดวกสบายและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารสาธารณะ แท็กซี่ หรือแม้กระทั่งการเดินเท้า สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งสามารถเข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองหรือธรรมชาติของเวียดนามด้วยตนเอง
ระบบขนส่งสาธารณะ
สำหรับระบบขนส่งสาธารณะในเวียดนามนั้น มีบริการครอบคลุมตั้งแต่รถโดยสารประจำทาง รถทัวร์ รถตู้ ไปจนถึงรถไฟ ซึ่งสามารถเดินทางได้ทั่วประเทศ ตั้งแต่ภาคเหนือจรดภาคใต้ รวมถึงเส้นทางข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาวและกัมพูชา โดยมีทั้งบริษัทภาครัฐและเอกชนให้บริการ ราคาค่าโดยสารจะแตกต่างกันตามระยะทางและประเภทของบริการ และโดยทั่วไปไม่สามารถต่อรองราคาได้ อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วโดยสารได้โดยตรงจากบริษัทผู้ให้บริการหรือทางออนไลน์ ซึ่งมักจะมีราคาถูกกว่าการจองผ่านบริษัททัวร์หรือโรงแรม

การเช่ารถ
อีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความคล่องตัวในการเดินทางคือ การเช่ารถ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในเวียดนาม ค่าเช่ารายวันเริ่มต้นประมาณ 150 บาท ทั้งนี้ราคาจะขึ้นอยู่กับประเภทรถและระยะเวลาที่เช่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นหรือเที่ยวชมเมืองในแบบอิสระ

ไปเมืองต่างๆในเวียดนามควรไปยังไง
วิธีการเดินทาง | รายละเอียด |
ไปฮานอย | สามารถบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังฮานอยได้อย่างสะดวก นั่งรถไฟ Sapaly Express จากซาปาไปยังฮานอย เพื่อสัมผัสบรรยากาศระหว่างทาง |
ไปโฮจิมินห์ ซิตี้ | นั่งรถไฟจากฮานอยไปยังโฮจิมินห์ ซิตี้ ใช้เวลาประมาณ 30 - 34 ชั่วโมง ใช้บริการ Grab Car หรือแท็กซี่จากดาลัดไปยังโฮจิมินห์ ซิตี้ เพื่อความรวดเร็วและสะดวกสบาย |
ไปซาปา | รถไฟให้บริการระหว่างฮานอยไปยังซาปา เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมวิวธรรมชาติ |
ไปดานัง | นั่งรถไฟจากฮานอยไปยังดานัง โดยบริการของ Vietnam Railways ใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ใช้เวลาประมาณ 14 - 18 ชั่วโมง บินจากฮานอยไปดานัง เพื่อความรวดเร็ว |
ไปดาลัด | ใช้บริการ Grab Car หรือแท็กซี่จากฮอยอันไปยังดาลัด นอกจากนี้ยังมีเรือเร็วให้บริการจากฮอยอันไปยังดาลัด เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การเดินทางทางน้ำ |
เวลาที่เวียดนาม กับไทย
เวลาที่เวียดนามและประเทศไทยไม่มีความแตกต่างกัน ใช้เวลาเดียวกันทั้งสองประเทศ ทำให้ง่ายต่อการวางแผนการเดินทางและติดต่อสื่อสารระหว่างกัน
เงินสกุลของเวียดนาม
สกุลเงิน
สกุลเงินที่ใช้ในเวียดนามคือ “ด่ง” หรือ “ดอง” (VND) ซึ่งเป็นหน่วยเงินที่ใช้กันอย่างเป็นทางการ
ในเวียดนามจะใช้เงินสกุล “ด่ง” (VND) โดยอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 1 บาทไทย (THB) เท่ากับประมาณ 801ด่ง (VND)
ข้อควรระวังในการแลกเงิน
อย่าแลกเงินที่สนามบินหรือโรงแรม เพราะอัตราแลกเปลี่ยนจะต่ำและไม่คุ้มค่า (เว้นแต่ว่าคุณไม่มีเงินสดเลยจริง ๆ)
เมื่อเดินทางถึงเวียดนาม ควรเปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยนจากหลาย ๆ ที่ และเลือกแลกเงินในราคาที่ดีที่สุด โดยร้านทองในเวียดนามก็สามารถแลกเงินได้ในจำนวนเล็กน้อยเช่นกัน

อาหารเวียดนาม
เวียดนามแต่ละภูมิภาคมีเสน่ห์และความสวยงามเฉพาะตัว พร้อมทั้งการเดินทางที่สะดวกและใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งยังมีอาหารเวียดนามที่มีราคาย่อมเยาและรสชาติดีเยี่ยม
สำหรับอาหารเวียดนามนั้น มีความใกล้เคียงกับอาหารไทยอย่างมาก เนื่องจากประเทศไทย ลาว และเวียดนามต่างได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมและอาหารมาจากภูมิภาคเดียวกัน เพียงแต่ใช้วัตถุดิบและชื่อเรียกที่แตกต่างกันเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเดินทางไปเวียดนาม ไม่ต้องกังวลเรื่องรสชาติ เพราะอาหารที่นั่นทั้งสดใหม่และอร่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อและสดสุด ๆ
หากคุณมีโอกาสไปเยือนเวียดนาม อย่าลืมแวะชิมอาหารท้องถิ่นตามร้านที่เราขอแนะนำ รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจและคุ้มค่าที่สุดในการเดินทางครั้งนี้แน่นอนค่ะ
พิกัดร้านอาหารเวียดนามน่าลอง
🍽️ร้าน Bun Cha Dac Kim 🍽️ ร้าน Bun Thang Ba Duc 🍽️ ร้าน Pho 2000 🍽️ ร้าน BUN DAU 46
เที่ยวเวียดนาม ช่วงไหนดีที่สุด
เวียดนามมี 4 ฤดูเช่นเดียวกับประเทศไทย คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว แต่ในทางปฏิบัติ อากาศของเวียดนามจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ทำให้สามารถเที่ยวได้ตลอดปีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพอากาศที่เลวร้ายมากนัก
หากถามว่าช่วงไหนดีที่สุดสำหรับการเที่ยวเวียดนาม คำตอบจะขึ้นอยู่กับว่าคุณจะไปเที่ยวที่ส่วนใดของเวียดนาม เพราะเวียดนามแบ่งออกเป็น 3 ภูมิภาคหลัก ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้
- ภาคเหนือ: มีอากาศเย็นสบายในช่วงปลายปีถึงต้นปี (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) ซึ่งเหมาะสำหรับการเที่ยวชมเมืองฮานอยและอ่าวฮาลอง
- ภาคกลาง: อากาศอบอุ่นตลอดปี แต่ช่วงที่เหมาะที่สุดคือระหว่างกุมภาพันธ์ถึงเมษายน เพราะฝนยังไม่ตกและอากาศไม่ร้อนจัด
- ภาคใต้: มีอากาศร้อนชื้นตลอดปี แต่ฤดูที่ดีที่สุดคือช่วงปลายปีถึงต้นปี (ธันวาคม – เมษายน) ซึ่งเป็นฤดูแล้ง เหมาะสำหรับเที่ยวทะเลและชายหาดในโฮจิมินห์หรือฟู้โกว๊ก
ดังนั้น การเลือกช่วงเวลาเที่ยวเวียดนามให้เหมาะสมที่สุด ควรพิจารณาตามภูมิภาคที่ต้องการไปเยือน เพื่อให้ได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในสภาพอากาศที่เหมาะสมค่ะ