
เมื่อพูดถึงประเทศที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ดินแดนสวรรค์” หลายคนคงนึกถึง “ตุรกี” ขึ้นมาในใจทันที ใช่ไหมคะ ประเทศที่เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ ทั้งธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเก่าแก่ และสถาปัตยกรรมอันตระการตา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครหลายๆ คนถึงหลงรักและอยากเดินทางไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง
และสำหรับใครที่กำลังวางแผนจะไปเยือนตุรกี แต่ยังลังเลใจว่าจะเริ่มต้นเที่ยวที่ไหนดี ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะวันนี้ Trip.com จะขออาสาพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในตุรกี ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “ประเทศสองทวีป” เพราะตั้งอยู่บนรอยต่อของทั้งทวีปเอเชียและยุโรป บอกเลยว่าทุกสถานที่ที่เราคัดสรรมานั้นจะทำให้คุณต้องร้องว้าว! เตรียมตัวเก็บกระเป๋าให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปเปิดประสบการณ์ใหม่กับความมหัศจรรย์ของตุรกีไปพร้อมกันกับเราที่ Trip.com ✨
เตรียมตัวให้พร้อม! รู้จักประเทศตุรกีก่อนออกเดินทาง
เชื่อว่าหลายท่านคงคุ้นชื่อประเทศตุรกีอยู่ไม่น้อย แต่ก็อาจยังสงสัยว่าแท้จริงแล้วตุรกีตั้งอยู่ในทวีปใด หากสังเกตจากแผนที่จะพบว่า ประเทศตุรกีตั้งอยู่บริเวณเอเชียตะวันตก โดยมีพื้นที่บางส่วนคร่อมอยู่ระหว่างทวีปเอเชียและทวีปยุโรป จึงถือได้ว่าเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในสองทวีปในเวลาเดียวกัน
ในฝั่งเอเชียเรียกว่าภูมิภาค “อนาโตเลีย” (Anatolia) ส่วนฝั่งยุโรปจะเรียกว่า “เทรซ” (Thrace) ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ตุรกีมีวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย ผสมผสานระหว่างเอเชียและยุโรปอย่างลงตัว
อีกหนึ่งความเข้าใจผิดที่มักเกิดขึ้นคือการคิดว่า “อิสตันบูล” (Istanbul) เป็นเมืองหลวงของตุรกี เนื่องจากเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงระดับโลก แต่อันที่จริงแล้ว เมืองหลวงของประเทศตุรกีคือ “อังการา” (Ankara) ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการบริหารและการเมืองของประเทศ
เรื่องเวลาที่ควรรู้
เวลาของประเทศตุรกีแตกต่างจากประเทศไทย โดยในช่วงฤดูหนาว (ประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม) เวลาจะช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง
แต่ในช่วงฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม) เวลาจะช้ากว่าประเทศไทยเพียง 4 ชั่วโมง ทั้งนี้ควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการปรับเวลาในแต่ละฤดูกาลก่อนการเดินทางทุกครั้ง เพื่อการวางแผนที่ราบรื่น
เรื่องสกุลเงินที่ใช้
ตุรกีใช้สกุลเงิน “ลีราใหม่ตุรกี” (New Turkish Lira) ซึ่งมีตัวย่อว่า TRY นักท่องเที่ยวสามารถแลกเปลี่ยนเงินลีราตุรกีได้จากประเทศไทย โดยแนะนำให้แลกจากธนาคารหรือร้านแลกเปลี่ยนเงินที่น่าเชื่อถือ และควรเตรียมเงินสดบางส่วนติดตัวไว้สำหรับใช้จ่ายเบื้องต้น
เรื่องข้อกำหนดวีซ่า
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย สามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศตุรกีได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า โดยสามารถพำนักอยู่ในประเทศได้ไม่เกิน 30 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไปท่องเที่ยว เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ หรือลองชิมอาหารและวัฒนธรรมแบบตุรกีดั้งเดิมอย่างเต็มที่
หากคุณกำลังวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวครั้งต่อไป ตุรกีคือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางกันเลยค่ะ! 🌍✨
ฮาเกียโซเฟีย(Hagia Sophia)
เริ่มต้นการเดินทางที่เมืองอิสตันบูลด้วยหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ไม่ควรพลาด นั่นคือ "ฮาเกียโซเฟีย" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วิหารเซนต์โซเฟีย" ซึ่งในภาษาตุรกีเรียกว่า "อายาโซเฟีย" (Ayasofya) อาคารหลังนี้ถือเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกที่โดดเด่น สวยงาม และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอิสตันบูลอย่างสง่างาม

ภายในฮาเกียโซเฟียมีการตกแต่งอย่างประณีต โดยใช้โทนสีฟ้าเป็นหลัก ให้ความรู้สึกสงบและขรึมขลัง อีกทั้งยังเต็มไปด้วยรายละเอียดทางศิลปะทั้งแบบไบแซนไทน์และอิสลามที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
นอกจากนี้ ฮาเกียโซเฟียยังมีความสำคัญในฐานะ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียนแห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยเดิมทีเป็นโบสถ์คริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็นมัสยิดในยุคจักรวรรดิออตโตมัน และปัจจุบันเปิดให้เข้าชมในฐานะพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์

ฮาเกียโซเฟียจึงเป็นจุดหมายที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมและศิลปกรรมของอิสตันบูลได้อย่างลึกซึ้ง เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้
ที่ตั้ง: Sultan Ahmet, Ayasofya Meydanı No:1, 34122 Fatih/İstanbul, ตุรกี
เวลาเปิดบริการ: 09:00-19:30(สามารถซื้อตั๋วได้จนถึงเวลา 19:00)
อิสตันบูล (Balat)
หลังจากเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของสุเหร่าโซเฟียแล้ว อย่าลืมแวะมาผ่อนคลายและดื่มด่ำกับเสน่ห์ของ ย่านบาลัท หนึ่งในย่านที่มีสีสันสดใสและคัลเลอร์ฟูลที่สุดในเมืองอิสตันบูล ย่านนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร เพียงก้าวแรกที่เดินเข้าสู่ย่านนี้ คุณจะได้สัมผัสกับถนนที่ปูด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ตลอดแนว สร้างบรรยากาศย้อนยุคที่น่าหลงใหล

เมื่อแหงนหน้ามองขึ้นไป คุณจะพบกับบ้านเรือนเก่าแก่ของชาวยิวที่สร้างขึ้นจากไม้ โดยยังคงสภาพดั้งเดิมไว้อย่างงดงาม อาคารแต่ละหลังถูกตกแต่งด้วยสีสันสดใสสะดุดตา ไม่ว่าจะเป็นสีชมพู ฟ้า เหลือง หรือเขียว ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้บาลัทเป็นที่รู้จักและหลงรักของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

ที่นี่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสายถ่ายภาพและครีเอเตอร์คอนเทนต์ เพราะไม่ว่าจะยืนโพสต์ท่าถ่ายรูปตรงจุดไหนของย่านนี้ก็สวยปังทุกมุม สามารถเก็บภาพสวยๆ ไว้อวดเพื่อนๆ หรือโพสต์ลงโซเชียลมีเดียได้แบบไม่เบื่อ
ที่ตั้ง: 34087 Fatih/อิสตันบูล ตุรกี
เวลาเปิดบริการ: ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
พระราชวังโทพคาปึ(Topkapi Palace)
พระราชวังโทพคาปึ ถือเป็นหนึ่งในพระราชวังที่สวยงามและหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วยพื้นที่กว้างขวางกว่า 700,000 ตารางเมตร พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับขององค์สุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมันต่อเนื่องยาวนานกว่า 3 ศตวรรษ

ภายในพระราชวังได้รับการออกแบบและตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ด้วยลวดลายที่ประณีตและสถาปัตยกรรมที่งดงามสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมและศิลปะในยุคนั้น ทุกห้อง ทุกมุมของพระราชวังล้วนเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดที่น่าตื่นตาตื่นใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และงานศิลป์ระดับโลกอย่างแท้จริง

ปัจจุบัน พระราชวังทอปกาปีได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวเข้าชมในฐานะพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ภายในจัดแสดงสิ่งของล้ำค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องราชูปโภค เครื่องแต่งกายของสุลต่าน เครื่องประดับโบราณ ไปจนถึงสิ่งของที่ใช้ในราชสำนักซึ่งล้วนเป็นหลักฐานสำคัญที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและความรุ่งเรืองของอาณาจักรในอดีต
นอกจากนี้ ภายในบริเวณพระราชวังยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Strait) ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ของอิสตันบูล หากมาเที่ยวตุรกี อย่าพลาดที่นี่แน่นอน
ที่ตั้ง: Cankurtaran, 34122 Fatih/İstanbul, ตุรกี
เวลาเปิดบริการ: วันจันทร์ และวันพุธ - วันอาทิตย์: 09:00-18:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย: 17:00 น.)【วันอังคารปิดทำการทั้งวัน】
ตลาดแกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar)
อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับสายช็อปปิ้งเมื่อมาเยือนอิสตันบูลก็คือ **ตลาดแกรนด์บาซาร์** ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมือง และยังเป็นหนึ่งในตลาดที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย ภายในตลาดแห่งนี้มีร้านค้ามากกว่า 4,000 ร้าน เรียงรายอยู่ตามตรอกซอกซอยต่างๆ ให้ได้เลือกชมเลือกซื้อกันอย่างจุใจ เดินกันได้ทั้งวันไม่มีเบื่อแน่นอน

ตลาดแกรนด์บาซาร์ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เนื่องจากมีสินค้าให้เลือกหลากหลายมาก ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็น่าซื้อไปเสียหมด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาของฝากหรือของที่ระลึกแบบมีเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องประดับ, เครื่องหนัง, ถ้วย จาน ชามเซรามิกลวดลายสวยงาม, พรมทอมือ หรือแม้กระทั่งสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่นที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและศิลปะของตุรกีได้อย่างน่าประทับใจ

หากใครมีแพลนจะซื้อของฝากกลับบ้าน ตลาดแห่งนี้ถือเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด เพราะในเมืองอื่นๆ ของตุรกีอาจจะหาตลาดที่รวมสินค้าครบครันเช่นนี้ได้ยาก อย่าลืมต่อรองราคาอย่างสุภาพก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะเป็นธรรมเนียมของการซื้อขายในตลาดแห่งนี้ และยังเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้ประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ตลาดแกรนด์บาซาร์น่าจดจำยิ่งขึ้นอีกด้วย
ที่ตั้ง: Beyazıt, 34126 Fatih/İstanbul, ตุรกี
เวลาเปิดบริการ: วันจันทร์ - วันเสาร์: 08:30-19:00 น.(วันอาทิตย์ปิดทำการทั้งวัน)
สระน้ำร้อนปามุคคาเล่ (Pamukkale)
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ในประเทศตุรกี ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศเรียบง่ายแบบมินิมอล สงบแต่แฝงไปด้วยความสวยงามอลังการ "ปามุคคาเล่"คือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด
คำว่า “Pamukkale” มาจากภาษาตุรกี โดยคำว่า “Pamuk” แปลว่า “ปุยฝ้าย” และคำว่า “Kale” แปลว่า “ปราสาท” เมื่อนำมารวมกันจึงหมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” ซึ่งเป็นชื่อที่สื่อถึงลักษณะของพื้นที่แห่งนี้ได้อย่างชัดเจน ด้วยหินสีขาวบริสุทธิ์ที่ก่อตัวขึ้นคล้ายปุยเมฆหรือปุยฝ้ายปกคลุมอยู่บนเนินเขา เป็นภาพที่สวยงามตระการตา ราวกับอยู่ในเทพนิยาย

แหล่งธรรมชาติแห่งนี้เกิดจากธารน้ำแร่ร้อนใต้ดินที่มีปริมาณแคลเซียมออกไซด์สูง เมื่อน้ำแร่ผุดขึ้นมาเหนือพื้นดินและไหลลงมาตามลาดเขาของภูเขาคาลดากึ (Kaldaği Mountain) จะเกิดปฏิกิริยากับอากาศ ทำให้แร่ธาตุต่าง ๆ จับตัวแข็งและตกผลึกเป็นชั้นหินปูนสีขาวนวล ลดหลั่นกันเป็นชั้น ๆ คล้ายกับน้ำตกหินปูนที่สวยงาม ซึ่งหาชมได้ยากจากที่อื่นในโลก
ด้วยคุณค่าทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ปามุคคาเล่จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1988 ทั้งในด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม

ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเดินทางไปเยือนคือฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นจนเอ่อล้นไปตามแอ่งหินต่าง ๆ สะท้อนกับแสงแดดสวยงามดั่งกระจก และอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อน อีกทั้งยังสามารถแช่เท้าหรือลงแช่ตัวในบ่อน้ำร้อนธรรมชาติที่มีแร่ธาตุช่วยบำรุงผิวพรรณและคลายความเมื่อยล้าได้อีกด้วย
ที่ตั้ง: Merkez, 20190 Pamukkale/Denizli, ตุรกี
เวลาเปิดบริการ: เปิดทำการทั้งวัน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 5 สถานที่ท่องเที่ยวสุดปังในประเทศตุรกี ที่ทาง Trip.com ได้คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อเอาใจสายเที่ยวให้ได้ออกเดินทางกันแบบเต็มอิ่มจุใจ ไม่ว่าจะออกทริปคนเดียว จัดทริปกับเพื่อนๆ หรือพาคนรักไปเติมความหวานในบรรยากาศสุดโรแมนติก สถานที่เหล่านี้ก็น่าไปสัมผัสสักครั้งในชีวิตไม่แพ้กันเลยค่ะ!