สภาพอากาศในญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม

เป็นช่วงที่กำลังก้าวผ่านจากฤดูหนาวและเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ อากาศเริ่มอุ่นขึ้น ซึ่งในเดือนนี้ถือได้ว่าเป็นช่วงท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น อุณหภูมิในเวลากลางวันจะอยู่ระหว่าง 10-15 องศาเซลเซียส โดยช่วงต้นเดือนอากาศยังมีความหนาวเย็นอยู่ ในภูมิภาคทางจตอนเหนือและภูมิประเทศพื้นที่่เป็นภูเขา ส่วนช่วงปลายเดือนอากาศจะมีความอบอุ่นขึ้น ซึ่งไฮไลท์คือ ดอกซากุระจะบานช่วงนี้

นอกจากเทศกาลซากุระแล้ว ยังมีเทศกาลฮินะมัตสึริ จะพบเห็นการตกแต่งตุ๊กตาสวยงามตามบ้านหรือห้างร้านทั่วประเทศ แถมยังมีขนมพิเศษเฉพาะเทศกาลด้วย  รวมถึงดอกเรปของญี่ปุ่นยังบานสะพรั่งอีกด้วย ซึ่งหาดูยากมาก เพราะออกดอกเพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งภาพรวมของเดือนนี้เต็มไปด้วยความสดชื่น อบอุ่น และความโรแมนติก วันนี้ Trip.com ขอแชร์สภาพอากาศแต่ละเมือง รวมถึงการเตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่น มีอะไรบ้างไปดูกัน

สภาพอากาศเดือนมีนาคมใน 10 เมืองใหญ่ในญี่ปุ่น

ไปเที่ยวญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม ต้องเตรียมเสื้อผ้าอะไรบ้าง

อากาศช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่อากาศดีมาก เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว เย็นสบาย แถมอากาศยังบริสุทธิ์อีกด้วย ซึ่งการแมทช์เสื้อผ้า Trip.com แนะนำดังนี้

1. โตเกียว

โตเกียว เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายในช่วงต้นถึงกลางเดือน และจะเริ่มอุ่นขึ้นในช่วงปลายเดือน ซึ่งกลางวันจะมีแดดอ่อนๆ เป็นช่วงที่เหมาะแก่การชมดอกซากุระ เดินเล่นช้อปปิ้งที่ย่านดังอย่าง ชิบุยะ ชินจูกุ หรือฮาราจูกุ รวมถึงยังเหมาะแก่การไป Tokyo Disneyland หรือ DisneySea เป็นอย่างมาก และการแต่งกายที่แนะนำจะเป็นเสื้อแขนยาว แจ็กเกตหรือโค้ตบาง ผ้าพันคอ กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ รวมถึงร่มพับเผื่อเกิดสภาพอากาศแปรปรวน

2. โอซาก้า

เมืองใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่น สภาพอากาศจะมีความคล้ายคลึงกับโตเกียว แต่อาจจะอบอุ่นกว่าเล็กน้อย สามารถเดินเที่ยวชมดอกซากุระที่สวนของปราสาทโอซาก้า ชิมของกินที่ย่านโดทงโบริ และการแต่งกายที่แนะนำจะเป็นเสื้อแขนยาว แจ็กเกต คาร์ดิแกน รองเท้าที่ใสสบายสามารถเดินทั้งวัน

3. เกียวโต

เมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น อากาศในช่วงกลางวันจะมีความอบอุ่น แต่จะเย็นกว่ากรุงโตเกียวเล็กน้อย โดยเฉพาะช่วงเช้าและกลางคืน ซึ่งถือว่าอากาศดีเหมาะแก่การเดินชมวัดและศาลเจ้า ใส่ชุดกิโมโนถ่ายรูปในเมือง เดินชมดอกบ๊วยและดอกซากุระ และการแต่งกายที่แนะนำจะเป็นเสื้อไหมพรมบาง โค้ต รองเท้าหุ้มส้นแบบนุ่มสำหรับเดินนานๆ ได้ 

4. ซัปโปโร

เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเกาะฮอกไกโด ถึงจะเป็นเดือนมีนาคม ก็ยังคงมีหิมะตก และอากาศหนาวจัด ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จะมาเล่นสกี สโนว์บอร์ด หรือเดินเล่นที่ลานหิมะ รวมถึงให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายด้วยแช่ออนเซ็นธรรมชาติกลางหิมะ อีกทั้งยังแวะชิมราเม็งมิโซะร้อน ๆ และซีฟู้ดที่อร่อยขึ้นชื่อ และการแต่งกายที่แนะนำจะเป็นเสื้อฮีทเทค เสื้อกันหนาวขนเป็ดหรือโค้ตหนา หมวกไหมพรม ผ้าพันคอ ถุงมือ รองเท้าบูตกันหิมะ ถุงเท้าหนา และแผ่นร้อน

5. โอกินาว่า

หมู่เกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ในเดือนมีนาคม ถือว่าเมืองนี้มีอากาศอบอุ่นมากที่สุด ยิ่งช่วงปลายเดือนมีนาคมอากาศจะคล้ายช่วงหน้าร้อนเบาๆ ซึ่งที่นี่เหมาะแก่การเดินเล่นริมทะเล เที่ยวเกาะใกล้เคียง ดำน้ำตื้น พายเรือคายัก  ชิมอาหารพื้นเมืองสไตล์โอกินาว่าชื่อดังอย่าง โซกิซาบะ และการแต่งกายที่แนะนำจะเป็น เสื้อยืด เสื้อแขนยาวบาง กางเกงขายาวหรือขาสั้น หมวกกันแดด แว่นกันแดด เป็นต้น

Tips ไปเที่ยวญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม

เดือนมีนาคมถือได้ว่าเป็นช่วงพีคของการท่องเที่ยวที่นี่เลยก็ว่าได้ ด้วยความที่อากาศดี เย็นสบาย แถมเป็นช่วงโรแมนติกอย่างซากุระบาน อาหารอร่อย บรรยากาศสุดจะโรแมนติก อบอุ่น แต่ก่อนจะไปเที่ยวเที่ยวญี่ปุ่น มีข้อควรรู้ดังนี้

1. ดอกซากุระในเดือนมีนาคม

ดอกซากุระจะเริ่มผลิดอกช่วงกลางถึงปลายเดือนมีนาคม โดยเริ่มจากเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ไล่ขึ้นไปทางตอนเหนือ โดยจุดชมยอดนิยมจะอยู่ที่เมืองโตเกียว เกียวโต โอซาก้า เป็นต้น ซึ่งก่อนเดินทาง สามารถเช็กพยากรณ์การบานของซากุระก่อนเดินทาง เพราะเมื่อดอกซากุระบานแค่ 1 - 2 อาทิตย์เท่านั้น

2. การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

ในเดือนนี้เป็นเดือนที่สภาพอากาศเริ่มเปลี่ยนจากหนาวเป็นอบอุ่น โดยช่วงเช้าและกลางคืนอากาศจะหนาว ส่วนช่วงกลางวันจะอบอุ่นเพิ่มขึ้น ควรเตรียมเสื้อผ้าแบบเลเยอร์ที่สามารถใส่ทับกันได้ แต่ยังคงความสวยงามและเหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยระหว่างการเดินทาง รวมถึงควรพกร่มพับเผื่อไปด้วย เพราะบางวันอาจจะมีฝนปรอยๆ 

3. อาหาร

อาหารที่ญี่ปุ่นมีให้เลือกหลากหลายมาก โดยอาหารตามฤดูกาลของช่วงเดือนมีนาคม ได้แก่ อาหารทะเลต่างๆ ปลาซาดีน ปลาซันมะ ด้านขนมหวานก็จะมีขนมหวานรสซากุระหรือซากุระโมจิ,

4. การจราจรและการเดินทาง

ระบบขนส่งของประเทศญี่ปุ่นถือได้ว่าครอบคลุมในทุกพื้นที่ ด้วยความที่มีรถไฟหลายสาย จำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับระบบขนส่งของญี่ปุ่นล่วงหน้า ซึ่งแนะนำให้ซื้อบัตร Suica หรือ ICOCA ประหยัดไปได้หลายบาทเลย

5. มารยาทและวัฒนธรรม

ประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับมารยาทมาก ไม่ว่าจะเป็นความสุภาพ ความสะอาด และความเกรงใจในที่สาธารณะ เช่น ไม่พูดเสียงดังในที่สาธารณะหรือบนรถไฟ ไม่ทิ้งขยะตามท้องถนน หรือถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านหรือพื้นที่ที่มีเสื่อทาทามิ เป็นต้น