ตั๋วเครื่องบิน ขอนแก่น ไป กรุงเทพ

1️⃣ เหตุผลในการเดินทางทางอากาศจากขอนแก่นสู่กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร หรือ กรุงเทพฯ ที่เราคุ้นเคยกันดี คือเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เป็นศูนย์กลางในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารประเทศ การศึกษา การคมนาคมขนส่ง การเงิน การค้า และความเจริญต่างๆ เมืองหลวงแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง มีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านกลางเมือง แบ่งเป็นฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี ด้วยขนาดพื้นที่กว่า 1,500 ตารางกิโลเมตร และประชากรตามทะเบียนบ้านกว่า 5.5 ล้านคน (แต่ถ้านับรวมประชากรที่อาศัยอยู่จริงและในเขตปริมณฑล คาดว่ามีมากกว่า 17 ล้านคน) ทำให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครที่มีบทบาทสำคัญทั้งในระดับประเทศและระดับโลก เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสันและสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย มีตั้งแต่วัดวาอารามเก่าแก่สวยงาม พระบรมมหาราชวัง ไปจนถึงศูนย์การค้าทันสมัย และแหล่งรวมความบันเทิงยามค่ำคืน ที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก

กรุงเทพฯ ไม่ได้เป็นเมืองหลวงของไทยมาตั้งแต่แรก ในสมัยอยุธยา เมืองบางกอก (ชื่อเดิมของกรุงเทพฯ) เป็นเพียงเมืองท่าค้าขายเล็กๆ ริมแม่น้ำ แต่ก็มีความสำคัญในฐานะประตูสู่ทะเล หลังจากกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่สอง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ทรงเลือกกรุงธนบุรี (ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ) เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี ทรงเห็นว่าฝั่งตะวันออก (ฝั่งพระนครปัจจุบัน) มีทำเลที่ดีกว่า จึงทรงมีรับสั่งให้ย้ายเมืองหลวงมายังฝั่งนี้ และก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กรุงเทพฯ ก็พัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นศูนย์กลางความทันสมัย และเป็นเวทีของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญของไทย ความเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมเริ่มเห็นได้ชัดเจนในสมัยรัชกาลที่ 3 มีทั้งคนพื้นถิ่นเดิม ชาวสยามที่กลับมารวมตัวกันหลังสงคราม และกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ที่ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ กรุงเทพมหานครมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายที่ตอบสนองความสนใจของผู้มาเยือนจำนวนมาก สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและเป็นที่นิยมประกอบด้วย

• พระบรมมหาราชวัง และ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว): แลนด์มาร์คสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ชมความงามของสถาปัตยกรรมไทยอันวิจิตร และสักการะพระแก้วมรกต (ควรแต่งกายสุภาพ)
• วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์): เยี่ยมชมพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) ขนาดใหญ่ และสัมผัสต้นกำเนิดการนวดแผนไทย
• วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง): ชมความงดงามของพระปรางค์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีสันสดใส ยิ่งสวยงามเมื่อเปิดไฟในยามค่ำคืน
• แม่น้ำเจ้าพระยา: สัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำ นั่งเรือด่วนชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำ หรือล่องเรือรับประทานอาหารค่ำชมวิวเมืองยามค่ำคืน
• ย่านเยาวราช (ไชน่าทาวน์): สัมผัสบรรยากาศชุมชนชาวจีนที่คึกคัก โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยร้านอาหารริมทางและร้านค้าเก่าแก่มากมาย

2️⃣ เปรียบเทียบสายการบินที่บินจากขอนแก่นไปกรุงเทพฯ

ภาพรวมของสายการบินตรง

การเดินทางทางอากาศจากขอนแก่น (KKC) ไปยังกรุงเทพฯ (BKK/DMK) มีความสะดวกสบายด้วยเที่ยวบินตรงให้บริการทุกวันจากหลายสายการบิน โดยมีทั้งสายการบินที่เน้นความคุ้มค่า (Low-Cost Carriers) และสายการบินบริการเต็มรูปแบบ (Full-Service Carrier) ให้เลือกตามความต้องการของผู้โดยสาร

สายการบินหลักที่ให้บริการเส้นทางนี้

• ไทยแอร์เอเชีย (Thai AirAsia - FD): เป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่ได้รับความนิยมสูงในเส้นทางนี้ ให้บริการหลายเที่ยวบินต่อวัน บินตรงไปยัง ท่าอากาศยานดอนเมือง (DMK)
• ไทยเวียตเจ็ท (Thai Vietjet Air - VZ): เป็นสายการบินต้นทุนต่ำอีกแห่งที่ให้บริการหลายเที่ยวบินต่อวัน บินตรงสู่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (BKK) และมักมีข้อเสนอราคาที่น่าสนใจ
• ไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air - SL): สายการบินต้นทุนต่ำที่ให้บริการหลายเที่ยวบินต่อวันเช่นกัน บินตรงไปยัง ท่าอากาศยานดอนเมือง (DMK)
• การบินไทย (Thai Airways - TG): เป็นสายการบินบริการเต็มรูปแบบรายเดียวในเส้นทางนี้ (รวมถึงเที่ยวบินที่อาจดำเนินการภายใต้รหัสร่วมกับไทยสมายล์เดิม) บินตรงสู่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (BKK)

ตารางเปรียบเทียบสายการบิน (ขอนแก่น - กรุงเทพฯ)

หมายเหตุ:

• ราคาตั๋วเครื่องบินอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับช่วงเวลาในการจอง วันเดินทาง และโปรโมชั่นของแต่ละสายการบิน
• เวลาบินเป็นค่าประมาณการ และอาจแตกต่างกันไปในแต่ละเที่ยวบิน
• สายการบินต้นทุนต่ำมักมีบริการเสริมที่ต้องชำระเพิ่ม เช่น น้ำหนักกระเป๋า การเลือกที่นั่ง และอาหารบนเครื่อง ในขณะที่สายการบินบริการเต็มรูปแบบมักรวมบริการเหล่านี้ไว้ในราคาตั๋วแล้ว

3️⃣ สิ่งที่ควรรู้ก่อนออกเดินทางจากขอนแก่น

ท่าอากาศยานขอนแก่น (รหัส IATA: KKC) เป็นศูนย์กลางการเดินทางทางอากาศที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองขอนแก่น ทำให้การเดินทางไปสนามบินค่อนข้างสะดวก สนามบินนี้ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศเป็นหลัก เชื่อมต่อขอนแก่นกับกรุงเทพฯ และจุดหมายปลายทางอื่นๆ

อาคารผู้โดยสาร

ท่าอากาศยานขอนแก่นมีอาคารผู้โดยสารหลัก ซึ่งรวมพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาเข้าและขาออกไว้ด้วยกัน เคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินต่างๆ จะอยู่ที่ชั้น 2

การเดินทางจากตัวเมือง

สนามบินตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองขอนแก่นประมาณ 8 กิโลเมตร การเดินทางไปยังสนามบินทำได้หลายวิธี ดังนี้

• แท็กซี่: มีให้บริการทั่วไปในตัวเมือง
• บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน: สามารถใช้บริการ เช่น Grab ได้
• รถยนต์ส่วนตัว/รถเช่า: มีบริการที่จอดรถและบริการรถเช่าภายในสนามบิน
• รถรับส่งสนามบิน: บางโรงแรมอาจมีบริการรถรับส่ง (ควรตรวจสอบเงื่อนไขและค่าบริการกับทางโรงแรม)

ร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสนามบิน

ภายในอาคารผู้โดยสารมีร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึก ขนม เครื่องดื่ม และร้านอาหารให้บริการ แม้จะไม่มีร้านค้าปลอดภาษีเหมือนสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานเพียงพอ

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

• WiFi: มีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายให้บริการภายในอาคารผู้โดยสาร
• เลานจ์: มีห้องรับรองพิเศษสำหรับผู้โดยสารของบางสายการบิน หรือผู้ถือบัตรเครดิต/สมาชิกตามเงื่อนไขที่กำหนด ให้บริการอาหารว่างและเครื่องดื่ม
• โรงแรมใกล้สนามบิน: ไม่มีโรงแรมตั้งอยู่ในพื้นที่สนามบิน แต่มีโรงแรมหลายแห่งในตัวเมืองขอนแก่นที่อยู่ไม่ไกล
• เคาน์เตอร์บริการ: มีจุดให้บริการข้อมูลและช่วยเหลือผู้โดยสาร
• ข้อมูลการคืนภาษี (VAT Refund): บริการนี้ไม่มีให้บริการที่สนามบินขอนแก่น เนื่องจากสนามบินเน้นให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ
• เวลาเช็คอิน: สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ โดยทั่วไปเคาน์เตอร์เช็คอินจะเปิดก่อนเวลาเครื่องออกประมาณ 2 ชั่วโมง และปิดประมาณ 30-45 นาทีก่อนเวลาเดินทาง อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบเวลาที่แน่นอนกับสายการบินที่ใช้บริการ และเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางมาสนามบินและผ่านขั้นตอนต่างๆ

4️⃣ สิ่งที่ควรรู้หลังจากมาถึงกรุงเทพฯ (คู่มือสนามบิน & การเดินทางเข้าเมือง)

เมื่อเดินทางจากขอนแก่นมาถึงกรุงเทพฯ คุณจะลงจอดที่ท่าอากาศยานหลักแห่งใดแห่งหนึ่งจากสองแห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (BKK) หรือท่าอากาศยานดอนเมือง (DMK) ซึ่งขึ้นอยู่กับสายการบินที่คุณเลือกใช้บริการ สนามบินทั้งสองแห่งมีลักษณะ สิ่งอำนวยความสะดวก และวิธีการเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองที่แตกต่างกัน

รายละเอียดที่น่าสนใจในสนามบินกรุงเทพฯ

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (BKK)

อาคารผู้โดยสาร มีอาคารผู้โดยสารหลักขนาดใหญ่เพียงอาคารเดียว (พื้นที่ประมาณ 563,000 ตารางเมตร) รองรับทั้งเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ โดยแบ่งพื้นที่ให้บริการตามชั้นต่างๆ ผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศจะผ่านกระบวนการและรับกระเป๋าที่บริเวณชั้น 2 ส่วนผู้โดยสารขาออกจะเช็คอินและผ่านขั้นตอนต่างๆ ที่ชั้น 4 อาคารเทียบเครื่องบินสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศคืออาคาร A และ B (อาคาร B อาจใช้สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศในช่วงกลางคืน) ส่วนอาคาร C, D, E, F, G ใช้สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศเป็นหลัก

การเดินทางเข้าเมือง

• รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (Airport Rail Link - ARL): เป็นวิธีที่รวดเร็วในการเข้าสู่ใจกลางเมือง เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า BTS พญาไท และ MRT เพชรบุรี (สถานีมักกะสัน) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25-30 นาที ให้บริการตั้งแต่เวลาประมาณ 05:30 น. ถึง 00:00 น.
• แท็กซี่: มีจุดบริการแท็กซี่สาธารณะอย่างเป็นทางการที่ชั้น 1 ควรใช้บริการจากจุดนี้และยืนยันการใช้มิเตอร์
• รถโดยสารประจำทางและรถตู้: มีรถประจำทางสาธารณะหลายสาย (เช่น S1 ไปสนามหลวง/ข้าวสาร, 554, 555, 558) และรถตู้ (เช่น 552 ไปอ่อนนุช, 555 ไปดอนเมือง) ให้บริการจากศูนย์ขนส่งสาธารณะ (ต้องนั่งรถเวียนภายในสนามบินไป)
• รถลีมูซีน / บริการรถเช่า / รถส่วนตัว: มีเคาน์เตอร์ให้บริการรถลีมูซีน บริการรถเช่าจากหลายบริษัท และสามารถจองบริการรถรับส่งส่วนตัวล่วงหน้าได้
• รถชัทเทิลบัสไปดอนเมือง: มีบริการรถเวียนฟรีระหว่างสองสนามบิน สำหรับผู้โดยสารที่มีเที่ยวบินต่อเครื่อง (ต้องแสดงบัตรโดยสาร)

ร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวก

มีร้านค้า ร้านอาหารหลากหลาย ทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศ กระจายอยู่ตามชั้นต่างๆ โดยเฉพาะชั้น 3 และชั้น 4 มีร้านค้าปลอดภาษี King Power สำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ รวมถึงร้านค้าทั่วไปและร้านสะดวกซื้อ

• ห้องรับรองพิเศษ (Lounges): มีห้องรับรองหลายแห่ง เช่น Miracle Lounge (ทั้งภายในและระหว่างประเทศ), King Power SPACE (สำหรับสมาชิกระดับสูง), K Point KLUB (ใช้คะแนน KBank), เลานจ์ของการบินไทย (สำหรับผู้โดยสารและสมาชิกตามเงื่อนไข) รวมถึงเลานจ์ที่สามารถเข้าใช้บริการได้ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือโปรแกรมอย่าง Priority Pass และ LoungeKey
• โรงแรมในสนามบิน: มีโรงแรม Novotel Bangkok Suvarnabhumi Airport ซึ่งเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสาร และโรงแรม Miracle Transit Hotel ตั้งอยู่ภายในอาคารผู้โดยสาร (ชั้น 4) สำหรับผู้โดยสารรอเปลี่ยนเครื่อง
• WiFi: มีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรีให้บริการทั่วทั้งอาคารผู้โดยสาร
• การคืนภาษี (VAT Refund): สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางออกนอกประเทศ สามารถติดต่อเคาน์เตอร์คืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ในพื้นที่ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง

ท่าอากาศยานดอนเมือง (DMK)

อาคารผู้โดยสาร: มี 2 อาคารหลัก คือ อาคาร 1 (Terminal 1) สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ และอาคาร 2 (Terminal 2) สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากขอนแก่นจะมาถึงที่อาคาร 2 บริเวณชั้น 1 คือโถงผู้โดยสารขาเข้า ส่วนขาออกจะเช็คอินที่ชั้น 3 และผ่านจุดตรวจค้นเพื่อไปยังประตูทางออกขึ้นเครื่อง

การเดินทางเข้าเมือง

• รถโดยสารประจำทาง (Airport Bus): มีรถประจำทางปรับอากาศหลายสาย (A1-A4) ให้บริการไปยังจุดเชื่อมต่อสำคัญ เช่น BTS หมอชิต, MRT สวนจตุจักร, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ประตูน้ำ, สวนลุมพินี และถนนข้าวสาร/สนามหลวง
• รถไฟฟ้าสายสีแดง (SRT Red Line): มีทางเชื่อม (Skywalk) จากอาคารผู้โดยสารไปยังสถานีดอนเมืองของรถไฟฟ้าสายสีแดง สามารถนั่งเข้าเมืองไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (บางซื่อ) เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และระบบขนส่งอื่นๆ
• แท็กซี่: มีจุดบริการแท็กซี่สาธารณะอย่างเป็นทางการให้บริการ
• รถโดยสาร Limobus: ให้บริการในเส้นทางสู่ สีลม, สยาม, และถนนข้าวสาร
• รถชัทเทิลบัสไปสุวรรณภูมิ: มีบริการรถเวียนฟรีระหว่างสองสนามบิน สำหรับผู้โดยสารที่มีเที่ยวบินต่อเครื่อง (ต้องแสดงบัตรโดยสาร)
• บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน / รถเช่า: สามารถใช้บริการได้ โดยมีจุดนัดรับและเคาน์เตอร์บริการรถเช่า

ร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวก

มีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อจำนวนมาก โดยเฉพาะในอาคาร 2 บริเวณชั้น 3 และชั้น 4 รวมถึงศูนย์อาหาร Magic Food Point ที่มีราคาย่อมเยา

• ห้องรับรองพิเศษ (Lounges): มีห้องรับรองให้บริการ เช่น The Coral Executive Lounge (ทั้งอาคาร 1 และ 2), Miracle Lounge, และ King Power Lounge (สำหรับสมาชิกตามเงื่อนไข) รวมถึงเลานจ์ที่สามารถเข้าใช้ได้ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือโปรแกรมต่างๆ
• โรงแรมในสนามบิน: มีโรงแรม Amari Don Muang Airport Bangkok ซึ่งมีทางเชื่อมต่อโดยตรงกับอาคารผู้โดยสาร
• WiFi: มีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรีให้บริการ
• การคืนภาษี (VAT Refund): สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางออกนอกประเทศ สามารถติดต่อเคาน์เตอร์คืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ในพื้นที่ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศของอาคาร 1

5️⃣ คู่มือการเดินทางในกรุงเทพฯ และสิ่งจำเป็น

การแลกเปลี่ยนเงินตรา

สำหรับผู้เดินทางภายในประเทศ การเดินทางจากขอนแก่นมายังกรุงเทพฯ เป็นการเดินทางภายในประเทศไทย ซึ่งใช้สกุลเงินเดียวกันคือ บาท (THB) จึงไม่จำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนเงินตรา แต่หากคุณต้องการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินบาทไทย (THB) มีข้อควรรู้ดังนี้

• ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (BKK): จุดแลกเปลี่ยนเงินที่ให้ อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด มักจะอยู่ที่ชั้นใต้ดิน (B Floor) บริเวณใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (Airport Rail Link). บริเวณนี้มีเคาน์เตอร์ของผู้ให้บริการเอกชนหลายราย เช่น SuperRich (สีเขียวและสีส้ม), Happy Rich และอื่นๆ รวมถึงสาขาของธนาคารกสิกรไทยที่ให้อัตราแลกเปลี่ยนแข่งขันได้. ควรหลีกเลี่ยงการแลกเงินจำนวนมากที่เคาน์เตอร์ธนาคารในบริเวณโถงผู้โดยสารขาเข้าหรือพื้นที่ศุลกากร เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนมักจะต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
• ท่าอากาศยานดอนเมือง (DMK): ที่สนามบินดอนเมือง ตัวเลือกการแลกเงินจะจำกัดอยู่แค่เคาน์เตอร์ของธนาคารพาณิชย์เท่านั้น ไม่มีผู้ให้บริการแลกเงินเอกชน. อัตราแลกเปลี่ยนที่นี่โดยทั่วไปจะไม่ดีเท่ากับจุดแลกเงินที่ดีที่สุดที่สุวรรณภูมิหรือในตัวเมืองกรุงเทพฯ. อย่างไรก็ตาม มีเคาน์เตอร์ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
• คำแนะนำทั่วไป: แนะนำให้แลกเงินจำนวนเล็กน้อยที่สนามบินเฉพาะสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นทันที (เช่น ค่าเดินทางเข้าเมือง ค่าซิมการ์ด) แล้วค่อยไปแลกเงินจำนวนมากขึ้นในตัวเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งมักจะได้อัตราที่ดีกว่า โดยเฉพาะที่สำนักงานใหญ่ของผู้ให้บริการแลกเงิน เช่น SuperRich หรือ Vasu Exchange บริเวณราชดำริ หรือนานา
• เอกสารที่ต้องใช้: ชาวต่างชาติต้องแสดง หนังสือเดินทาง (Passport) ทุกครั้งที่ทำการแลกเงิน
• ธนบัตร: โดยทั่วไป ธนบัตรต่างประเทศใบใหญ่ (เช่น 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 100 ยูโร) มักจะได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่าธนบัตรใบเล็ก และธนบัตรควรอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยฉีกขาดหรือรอยขีดเขียน

ความแตกต่างของเขตเวลา

ขอนแก่นและกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในเขตเวลาเดียวกัน คือ Indochina Time (ICT) ซึ่งตรงกับ UTC+7 ดังนั้น ไม่มีความแตกต่างของเวลาในการเดินทางระหว่างสองเมืองนี้

สภาพอากาศในกรุงเทพฯ

โดยทั่วไป สภาพอากาศในกรุงเทพฯ ช่วงเดือนเมษายน จะมีอากาศร้อนจัดและมีความชื้นสูง อุณหภูมิสูงสุดในตอนกลางวันอาจสูงถึงประมาณ 35 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิในตอนกลางคืนจะอยู่ที่ประมาณ 26 องศาเซลเซียส ในเดือนนี้มักจะมีแดดจัดเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมง และอาจมีฝนตกได้ประมาณ 6 วันตลอดทั้งเดือน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 68 มิลลิเมตร

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางในกรุงเทพฯ

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางภายในกรุงเทพฯ แตกต่างกันไปตามรูปแบบการเดินทาง:

• รถไฟฟ้า (BTS/MRT): ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ประมาณ 16 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง สูงสุดอาจถึงประมาณ 60-70 บาทต่อเที่ยว
• รถโดยสารประจำทาง: เป็นตัวเลือกที่ประหยัดที่สุด มีทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ค่าโดยสารเริ่มต้นไม่ถึง 10 บาทสำหรับรถธรรมดา และประมาณ 13-27 บาทสำหรับรถปรับอากาศ ขึ้นอยู่กับประเภทรถและระยะทาง
• แท็กซี่: ค่าโดยสารเริ่มต้นตามมิเตอร์ที่ 35 บาท และจะเพิ่มขึ้นตามระยะทางและเวลา (กรณีรถติด) อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมหากเรียกจากสนามบิน หรือใช้บริการทางด่วน
• เรือด่วนเจ้าพระยา/เรือคลองแสนแสบ: ค่าโดยสารไม่แพง เริ่มต้นประมาณ 10-30 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและประเภทของเรือ
• วินมอเตอร์ไซค์/ตุ๊กตุ๊ก: ค่าโดยสารต้องตกลงราคากับผู้ให้บริการก่อนเดินทาง เหมาะสำหรับระยะทางสั้นๆ

ระบบขนส่งทั่วไปในกรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ มีระบบขนส่งสาธารณะที่หลากหลาย ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ ซึ่งระบบขนส่งในกรุงเทพฯ มีดังนี้

• รถไฟฟ้า BTS (Skytrain) และ MRT (รถไฟใต้ดิน): เป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็วและตรงเวลาที่สุดในการเดินทางในเขตเมืองชั้นในและย่านธุรกิจ/แหล่งช้อปปิ้งสำคัญ ให้บริการประมาณ 06:00 น. ถึง 00:00 น. ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วน (เช้าและเย็น) เนื่องจากจะมีผู้ใช้บริการหนาแน่น
• รถโดยสารประจำทาง (รถเมล์): มีเครือข่ายครอบคลุมกว้างขวางที่สุด เข้าถึงตรอกซอกซอยต่างๆ ได้ดี มีหลายสายและหลายประเภทให้บริการตลอดวัน บางสายให้บริการตลอดคืน
• แท็กซี่: หาได้ง่ายทั่วไป ควรเลือกใช้บริการคันที่ระบุว่า "ว่าง" และยืนยันให้ผู้ขับขี่ใช้มิเตอร์ทุกครั้ง
• บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน (Ride-hailing): มีแอปพลิเคชันเรียกรถหลายตัวให้บริการในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางและทราบค่าโดยสารล่วงหน้า แอปพลิเคชันที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่
• Grab: เป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมและมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในประเทศไทย. Grab เข้ามาแทนที่ Uber ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปี 2018. ให้บริการหลากหลายรูปแบบ ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล (GrabCar), แท็กซี่ (GrabTaxi), รถจักรยานยนต์ (GrabBike), รวมถึงบริการส่งอาหาร (GrabFood) และอื่นๆ สามารถชำระเงินได้ทั้งเงินสด บัตรเครดิต/เดบิต หรือผ่าน e-Wallet
• Bolt: เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และมักจะมีอัตราค่าโดยสารที่แข่งขันได้ (อาจถูกกว่า Grab ในบางครั้ง) Bolt ให้บริการในหลายเมืองหลัก เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา มีตัวเลือกรถยนต์หลากหลาย รวมถึงรถจักรยานยนต์ในบางพื้นที่ อย่างไรก็ตาม จำนวนคนขับอาจน้อยกว่า Grab ทำให้บางครั้งอาจต้องรอรถนานกว่า หรือหาคนขับได้ยากกว่าในช่วงเวลาเร่งด่วน. การชำระเงินอาจเน้นเงินสดเป็นหลักในบางพื้นที่ หรือมีตัวเลือกอื่น
• inDrive: แอปพลิเคชันนี้มีความแตกต่างตรงที่ผู้โดยสารสามารถเสนอราคาค่าโดยสารที่ต้องการ หรือเลือกจากราคาที่คนขับเสนอมา ทำให้เกิดการต่อรองราคาได้ ให้บริการในหลายเมือง เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต การชำระเงินมักเป็นเงินสดโดยตรงกับคนขับ จำนวนคนขับอาจยังน้อยกว่า Grab หรือ Bolt
• แอปพลิเคชันอื่นๆ: นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่ให้บริการ เช่น CABB (ให้บริการแท็กซี่สไตล์ลอนดอน), AirAsia Superapp, Robinhood
• เรือโดยสาร: มีบริการเรือด่วนในแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำ และเรือในคลองแสนแสบซึ่งเป็นทางลัดในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง หลีกเลี่ยงการจราจรทางบกได้ดี
• มอเตอร์ไซค์รับจ้าง (วินมอเตอร์ไซค์): เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้นๆ หรือเข้าซอย สะดวกและรวดเร็วในการฝ่าการจราจรที่ติดขัด
• ตุ๊กตุ๊ก: เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นในระยะทางไม่ไกล ควรตกลงราคาก่อนใช้บริการเสมอ
• รถเช่า: มีบริการรถเช่าจากหลายบริษัท ทั้งในสนามบินและในตัวเมือง อย่างไรก็ตาม การขับรถยนต์ส่วนตัวในกรุงเทพฯ อาจมีความท้าทายเนื่องจากการจราจรที่หนาแน่นและสไตล์การขับขี่

วิธีการชำระเงินทั่วไป

• เงินสด: ยังคงเป็นวิธีการชำระเงินที่สำคัญและจำเป็น โดยเฉพาะสำหรับร้านค้าขนาดเล็ก แผงลอยริมทาง ตลาดสด ค่าโดยสารรถแท็กซี่บางคัน วินมอเตอร์ไซค์ และตุ๊กตุ๊ก ควรพกเงินสดจำนวนไม่มากติดตัวไว้เสมอ
• บัตรเครดิต/เดบิต: บัตร Visa และ Mastercard ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารขนาดใหญ่ และร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยว การใช้บัตร Amex อาจมีข้อจำกัดมากกว่า
• การชำระเงินผ่าน QR Code (PromptPay): เป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่คนไทย สามารถใช้จ่ายได้ตามร้านค้าทั่วไปจำนวนมาก ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารไทย
• กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallets): TrueMoney Wallet และ Rabbit LINE Pay เป็นที่นิยม สามารถใช้จ่ายในร้านค้าที่ร่วมรายการ และชำระค่าบริการต่างๆ ได้ (Rabbit Card นอกจากใช้กับ BTS ยังสามารถใช้จ่ายในร้านค้าบางแห่งได้)
• การชำระเงินแบบแตะจ่าย (Contactless Payment): เริ่มมีมากขึ้น แต่ยังไม่แพร่หลายเท่าในบางประเทศ บัตรเครดิต/เดบิต หรือแอปพลิเคชันบางตัวอาจรองรับการใช้งานในร้านค้าที่มีเครื่องหมาย Contactless

eSIM สำหรับใช้งานในกรุงเทพฯ

สำหรับผู้เดินทางภายในประเทศ หากคุณเดินทางจากขอนแก่นมายังกรุงเทพฯ และมีซิมการ์ด (ไม่ว่าจะเป็นแบบฟิสิคัล หรือ eSIM) ของผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศไทย (เช่น AIS, TrueMove H, dtac) ที่ใช้งานได้อยู่แล้ว คุณสามารถใช้ซิมและแพ็กเกจเดิมของคุณได้ตามปกติโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการใช้งานข้ามจังหวัด การเปลี่ยนไปใช้ eSIM จึง ไม่จำเป็นสำหรับการเดินทางภายในประเทศในลักษณะนี้ เนื่องจากยังสามารถใช้เครือข่ายเดียวกันได้เพราะครอบคลุมทั่วประเทศไทย แต่หากคุณสนใจที่จะใช้ eSIM ในกรณีที่สนใจ สามารถศึกษาได้จากรายละเอียดต่อไปนี้

• eSIM คืออะไร: eSIM หรือ Embedded SIM เป็นซิมการ์ดดิจิทัลที่ฝังอยู่ในอุปกรณ์ของคุณ (เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต) โดยตรง ไม่จำเป็นต้องใส่ซิมการ์ดแบบเดิมๆ เข้าไปในเครื่อง คุณสามารถเปิดใช้งานได้โดยการสแกน QR Code หรือตั้งค่าผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้สะดวก ไม่ต้องถอดเปลี่ยนซิม และลดขยะพลาสติก โทรศัพท์เครื่องเดียวอาจรองรับหลายโปรไฟล์ eSIM ทำให้คุณสลับใช้งานระหว่างเบอร์หรือแพ็กเกจต่างๆ ได้
• การจัดหา eSIM สำหรับใช้ในไทย: ผู้ให้บริการในประเทศ: AIS, TrueMove H, และ dtac ต่างก็มีบริการ eSIM ให้ลูกค้าทั้งแบบเติมเงินและรายเดือน คุณสามารถติดต่อศูนย์บริการเพื่อขอเปลี่ยนจากซิมปกติเป็น eSIM หรือเปิดเบอร์ใหม่เป็น eSIM ได้
• ประเภทของแพ็กเกจ: มีหลากหลาย ตั้งแต่เน้นดาต้าอย่างเดียว ไปจนถึงแพ็กเกจที่มีดาต้าไม่จำกัด (อาจมีเงื่อนไข Fair Use Policy หรือ FUP ที่ลดความเร็วหลังใช้งานถึงขีดจำกัด) หรือแพ็กเกจที่รวมนาทีโทรในประเทศด้วย. บางแพ็กเกจรองรับ 5G แต่บางแพ็กเกจอาจจำกัดที่ 4G/LTE

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเทพฯ

• วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว มีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมไทย และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร

Source // Trip.com

• วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดแจ้ง เป็นที่รู้จักจากพระปรางค์ขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นศิลปกรรมที่สง่างาม

Source // Trip.com

• วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ และมีชื่อเสียงในฐานะเป็นแหล่งกำเนิดของศาสตร์การนวดแผนไทย

Source // Trip.com

• วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มีพระพุทธธรรมกายเทพมงคล พระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ และพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล เป็นจุดสนใจสำคัญ

Source // Trip.com

• เสาชิงช้า คือสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร

Source // Trip.com

• สยามสแควร์ และพื้นที่ต่อเนื่องอย่าง Siam Scape เป็นศูนย์กลางการค้าและกิจกรรมของกลุ่มวัยรุ่น แหล่งรวมร้านค้าแฟชั่น ร้านอาหาร และพื้นที่สร้างสรรค์

Source // Trip.com

• ไอคอนสยาม เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วยร้านค้า ร้านอาหาร พื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ และการแสดงน้ำพุ

Source // Trip.com

• ตลาดน้อย เป็นชุมชนเก่าแก่ที่สะท้อนวิถีชีวิตชาวจีนในอดีต มีอาคารโบราณ ศิลปะบนกำแพง คาเฟ่ และร้านอาหาร

Source // Trip.com

• หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์กลางสำหรับจัดแสดงนิทรรศการศิลปะและกิจกรรมทางวัฒนธรรมร่วมสมัย ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกปทุมวัน

Source // Trip.com

• ตลาดนัดจตุจักร เป็นตลาดนัดสุดสัปดาห์ขนาดใหญ่ เป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีสินค้าจำหน่ายหลากหลายประเภท

Source // Trip.com

• ล้ง 1919 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดแสดงสถาปัตยกรรมจีนโบราณ และเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว

Source // Trip.com

• พระบรมมหาราชวัง อดีตพระราชวังหลวง เป็นกลุ่มอาคารที่มีความงดงามทางสถาปัตยกรรม และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์

Source // Trip.com

• มิวเซียมสยาม คือพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และพัฒนาการของสังคมไทยผ่านสื่อสมัยใหม่

Source // Trip.com

• ท่ามหาราช เป็นแหล่งรวมร้านอาหารและร้านค้าในบรรยากาศสบายๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางทางน้ำไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

Source // Trip.com